รู้ไหมว่าคำว่า "nightmare" หรือ "ฝันร้าย" ในภาษาอังกฤษที่เราใช้กันทุกวันนี้ มีที่มาจากตำนานผีร้ายที่มักจะทำให้เด็กๆ กลัวกัน แต่ไหนๆ ก็เล่าแล้ว เราเลยอยากหาข้อมูลเรื่องตัวกินฝัน หรือ ปีศาจกินฝัน มาเล่าให้น้องๆ ฟังด้วย ซึ่งคำว่า ตัวกินฝัน ในที่นี้ จะมากินเฉพาะฝันร้ายให้เด็กๆ เท่านั้น คนที่ฝันดี ไม่ต้องกังวลไป ถ้าพร้อมแล้ว เรามาติดตามเรื่องตัวกินฝันในตำนานได้เลย
ตำนานผี Mare: ต้นกำเนิดของคำว่า Nightmare
นานมาแล้ว ในดินแดนที่หนาวเย็นแถบสแกนดิเนเวีย มีตำนานเล่าขานกันว่ามีผีร้ายตนหนึ่งชื่อว่า "แมร์" (Mare) หรือ บ้างก็เรียกว่า มารา ซึ่งมักจะชอบออกมาหลอกหลอนผู้คนในยามค่ำคืน ผีแมร์จะแอบย่องเข้ามาในห้องนอนตอนดึกๆ แล้วมานั่งทับอกคนที่กำลังนอนหลับ ทำให้รู้สึกหายใจไม่ออก ขยับตัวไม่ได้ และเห็นภาพหลอนน่ากลัว! ตำนานนี้แพร่หลายในเรื่องเล่าหรือนิทานพื้นบ้านของเด็กๆ ชาวนอร์ดิก
ซึ่งก็ทำให้เด็กๆ ในยุคสมัยนั้นเรียกประสบการณ์นี้ว่า "night-mare" ซึ่งแปลว่า "ผีแมร์ยามค่ำคืน" และนี่เองที่เป็นที่มาของคำว่า "nightmare" ที่เราใช้เรียก "ฝันร้าย" ในปัจจุบัน!
แต่ถ้ามองในมุมวิทยาศาสตร์ วันนี้เราก็รู้แล้วว่า อาการที่คนโบราณเชื่อว่าเกิดจากผีแมร์นั้น แท้จริงคือภาวะที่เรียกว่า "ผีอำ" ซึ่งเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติเวลาที่ร่างกายยังไม่หลุดจากภาวะการนอนหลับดีนั่นเอง ดังนั้นน้องๆ ไม่ต้องกลัวกันนะ
ตัวกินฝันจากทั่วโลก
ตำนานเรื่องตัวกินฝันยังไม่หมดแค่นี้ เพราะเมื่อสำรวจไปเรื่อยๆ เราก็พบว่า ในภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลกก็มีตำนานเกี่ยวกับตัวกินฝันด้วยเช่นกัน เริ่มจาก
บาคุ: ยักษ์น้อยกินฝันจากญี่ปุ่น
บาคุเป็นสัตว์ประหลาดที่น่ารักมาก! มีงวงช้าง ตาเสือ เขาแรด และหางวัว แต่ไม่ต้องกลัว เพราะบาคุเป็นเพื่อนที่ดีของเด็กๆ และชอบกินแต่ฝันร้ายเท่านั้น ส่วนฝันดี พวกบาคุจะไม่ยุ่ง เด็กๆ เก็บฝันดีเอาไว้ได้เลย
นาวาโฮ สปิริต: ผีกินฝันของชาวอินเดียนแดง 🪶
ชาวนาวาโฮเชื่อว่ามีวิญญาณดีที่คอยปกป้องความฝันของเด็กๆ พวกเขาจึงทำ "ตาข่ายดักฝัน" หรือ Dreamcatcher แขวนไว้เหนือเตียง เชื่อว่าตาข่ายจะดักจับฝันร้ายไว้ และปล่อยเฉพาะฝันดีๆ ให้ผ่านลงมาหาเด็กๆ
วิธีป้องกันฝันร้ายแบบโบราณ
รู้ไหมว่า คนโบราณต่างก็พากันสรรหาวิธีป้องกันฝันร้ายให้กับเด็กๆ ที่น่าสนใจมากดังต่อไปนี้
จะว่าไปแล้ว ตำนานตัวกินฝัน ก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเสียทีเดียว แต่สามารถเป็นเรื่องที่เอาไว้ปลอบโยนให้กับเด็กๆ ที่เจอกับฝันร้ายในยามค่ำคืนได้ แต่ที่สำคัญ ถ้าฝันร้าย ก็แค่ตื่นมาบอกตัวเองว่า “นี่แค่ความฝัน” ไม่ต้องกลัว แล้วก็นอนต่อได้เลย
เรียบเรียง กองบรรณาธิการ แจ่มใสคิดส์