ผจญภัยในโลกแห่งความฝัน: เรื่องราวของตัวกินฝันและที่มาของ Nightmare! 🌙✨ - Jamsai Kids Store | ร้านหนังสือออนไลน์ คลังนิยายแจ่มใส

ตะกร้าสินค้า

empty-cart-img

ไม่มีสินค้าในตะกร้า

เลือกซื้อสินค้า
โปรโมชั่นส่วนลด และพรีเมี่ยมจะแสดงในหน้าตะกร้าสินค้าของฉัน

ราคาสินค้า:

0.00 บาท

ผจญภัยในโลกแห่งความฝัน: เรื่องราวของตัวกินฝันและที่มาของ Nightmare! 🌙✨

Share:   

รู้ไหมว่าคำว่า "nightmare" หรือ "ฝันร้าย" ในภาษาอังกฤษที่เราใช้กันทุกวันนี้ มีที่มาจากตำนานผีร้ายที่มักจะทำให้เด็กๆ กลัวกัน แต่ไหนๆ ก็เล่าแล้ว เราเลยอยากหาข้อมูลเรื่องตัวกินฝัน หรือ ปีศาจกินฝัน มาเล่าให้น้องๆ ฟังด้วย ซึ่งคำว่า ตัวกินฝัน ในที่นี้ จะมากินเฉพาะฝันร้ายให้เด็กๆ เท่านั้น คนที่ฝันดี ไม่ต้องกังวลไป ถ้าพร้อมแล้ว เรามาติดตามเรื่องตัวกินฝันในตำนานได้เลย

ตำนานผี Mare: ต้นกำเนิดของคำว่า Nightmare

นานมาแล้ว ในดินแดนที่หนาวเย็นแถบสแกนดิเนเวีย มีตำนานเล่าขานกันว่ามีผีร้ายตนหนึ่งชื่อว่า "แมร์" (Mare) หรือ บ้างก็เรียกว่า มารา ซึ่งมักจะชอบออกมาหลอกหลอนผู้คนในยามค่ำคืน ผีแมร์จะแอบย่องเข้ามาในห้องนอนตอนดึกๆ แล้วมานั่งทับอกคนที่กำลังนอนหลับ ทำให้รู้สึกหายใจไม่ออก ขยับตัวไม่ได้ และเห็นภาพหลอนน่ากลัว! ตำนานนี้แพร่หลายในเรื่องเล่าหรือนิทานพื้นบ้านของเด็กๆ ชาวนอร์ดิก

ซึ่งก็ทำให้เด็กๆ ในยุคสมัยนั้นเรียกประสบการณ์นี้ว่า "night-mare" ซึ่งแปลว่า "ผีแมร์ยามค่ำคืน" และนี่เองที่เป็นที่มาของคำว่า "nightmare" ที่เราใช้เรียก "ฝันร้าย" ในปัจจุบัน!

แต่ถ้ามองในมุมวิทยาศาสตร์ วันนี้เราก็รู้แล้วว่า อาการที่คนโบราณเชื่อว่าเกิดจากผีแมร์นั้น แท้จริงคือภาวะที่เรียกว่า "ผีอำ" ซึ่งเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติเวลาที่ร่างกายยังไม่หลุดจากภาวะการนอนหลับดีนั่นเอง ดังนั้นน้องๆ ไม่ต้องกลัวกันนะ

ตัวกินฝันจากทั่วโลก

ตำนานเรื่องตัวกินฝันยังไม่หมดแค่นี้ เพราะเมื่อสำรวจไปเรื่อยๆ เราก็พบว่า ในภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลกก็มีตำนานเกี่ยวกับตัวกินฝันด้วยเช่นกัน เริ่มจาก

บาคุ: ยักษ์น้อยกินฝันจากญี่ปุ่น

บาคุเป็นสัตว์ประหลาดที่น่ารักมาก! มีงวงช้าง ตาเสือ เขาแรด และหางวัว แต่ไม่ต้องกลัว เพราะบาคุเป็นเพื่อนที่ดีของเด็กๆ และชอบกินแต่ฝันร้ายเท่านั้น ส่วนฝันดี พวกบาคุจะไม่ยุ่ง เด็กๆ เก็บฝันดีเอาไว้ได้เลย

นาวาโฮ สปิริต: ผีกินฝันของชาวอินเดียนแดง 🪶

ชาวนาวาโฮเชื่อว่ามีวิญญาณดีที่คอยปกป้องความฝันของเด็กๆ พวกเขาจึงทำ "ตาข่ายดักฝัน" หรือ Dreamcatcher แขวนไว้เหนือเตียง เชื่อว่าตาข่ายจะดักจับฝันร้ายไว้ และปล่อยเฉพาะฝันดีๆ ให้ผ่านลงมาหาเด็กๆ

วิธีป้องกันฝันร้ายแบบโบราณ

รู้ไหมว่า คนโบราณต่างก็พากันสรรหาวิธีป้องกันฝันร้ายให้กับเด็กๆ ที่น่าสนใจมากดังต่อไปนี้  

  • ชาวไวกิ้งวางเกือกม้าไว้ข้างเตียง เพราะเชื่อว่าผีแมร์กลัวเกือกม้ามาก เนื่องจากเกือกม้ามีรูปทรงเหมือนพระจันทร์เสี้ยว จึงมีความหมายที่ดี เหมือนเป็นการสื่อถึงเทพเจ้า ซึ่งจะช่วยปัดเป่าพลังงานไม่ดีและขับไล่วิญญาณชั่วร้ายออกไปได้ บางคนก็ใช้วิธีแขวนเกือกม้าไว้ในบ้าน โดยเชื่อว่า ถ้าคว่ำเกือกม้าเป็นรูปตัว U หรือหันปลายขึ้น แปลว่าเก็บพลังงานดีๆ ไว้ในบ้าน ถ้าคว่ำลง หรือหันปลายลง จะแปลว่า ปล่อยพลังงานดีๆ เพื่อปกป้องบ้าน
  • เด็กๆ ญี่ปุ่นวาดรูปบาคุไว้ใต้หมอน เพื่อให้บาคุมาช่วยกินฝันร้าย
  • ใช้เกลือโรยรอบๆ เตียงเพื่อป้องกันฝันร้าย ส่วนใหญ่ประเทศแถบยุโรปเหนือและประเทศญี่ปุ่นจะมีความเชื่อนี้
  • ใบลาเวนเดอร์ ชาวยุโรปมักจะเอามาวางไว้ใต้หมอนเพราะมีความเชื่อว่าช่วยดูดจับฝันร้าย (แต่ในทางวิทยาศาสตร์ กลิ่นลาเวนเดอร์เป็นกลิ่นที่ทำให้ผ่อนคลาย และนอนหลับสบายนั่นเอง)
  • การเล่านิทานกล่อมเด็ก นี่แหละคือวิธีที่ใช้กันมาจนถึงปัจจุบัน และเราสนับสนุนวิธีนี้สุดๆ เพราะเราเชื่อว่า การเลือกนิทานที่ดี และสร้างบรรยากาศแวดล้อมในการเล่านิทาน หรือร้องเพลงกล่อมเด็กควบคู่ไปด้วย จะช่วยให้เด็กๆ รู้สึกผ่อนคลาย มีช่วงเวลาที่มีคุณภาพและนอนหลับฝันดีได้ตลอดคืน

จะว่าไปแล้ว ตำนานตัวกินฝัน ก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเสียทีเดียว แต่สามารถเป็นเรื่องที่เอาไว้ปลอบโยนให้กับเด็กๆ ที่เจอกับฝันร้ายในยามค่ำคืนได้ แต่ที่สำคัญ ถ้าฝันร้าย ก็แค่ตื่นมาบอกตัวเองว่า “นี่แค่ความฝัน” ไม่ต้องกลัว แล้วก็นอนต่อได้เลย  

เรียบเรียง กองบรรณาธิการ แจ่มใสคิดส์