5 ประโยคเด็ด! ปลุกลูกตอนเช้าสไตล์มนุษย์แม่ แม่ก็แฮปปี้ ลูกก็ดี๊ด๊า

5 ประโยคเด็ด! ปลุกลูกตอนเช้าสไตล์มนุษย์แม่ แม่ก็แฮปปี้ ลูกก็ดี๊ด๊า

ภารกิจปลุกตื่นไปโรงเรียน อีกหนึ่งงานสำคัญที่คุณแม่หลายคนต้องเผชิญในทุกๆ เช้า เด็กบางคนก็ง่าย เรียกปุ๊บ ตื่นปั๊บ เด้งดึ๋งลุกจากที่นอนทันที ในขณะที่อีกหลายๆ บ้าน ปลุกยังไงก็เหมือนสลบ หรือตื่นแล้วแต่ไม่ยอมลุก หรือลุกขึ้นมาแล้วแต่ก็งอแงหนักมาก จนคุณแม่หน้านิ่วคิ้วผูกโบว์ สถานการณ์ยามเช้าเริ่มตึงเครียด เช้าวันใหม่ก็ไม่ค่อยจะสดใส ลูกก็ไม่สดชื่น จิตใจขุ่นมัว ทำอะไรช้าลง อาการงอแงก็จะเกิดขึ้น สุดท้ายร้องไห้ไม่อยากไปโรงเรียนจนได้

ไม่เป็นไรค่ะ มาลองกันใหม่ ปลุกลูกด้วย 5 ประโยคฮีลใจ เพื่อให้ลูกเริ่มต้นเช้าวันใหม่ที่ดี พร้อมที่จะไปทำหน้าที่เป็นเด็กนักเรียนที่แจ่มใส เบิกบาน อยู่ที่โรงเรียนได้ตลอดทั้งวัน

01

"ตื่นๆ เรามาตื่นกันเถอะ"

ก่อนปลุกลูก คุณแม่ต้องปลุกพลังในตัวเอง เพื่อเรียกสิ่งดีๆ ยามเช้า ด้วยการเปิดเพลงที่ชอบเบาๆ จากนั้นเมื่อได้เวลาปลุกลูก ก็เปิดเพลงที่ลูกชอบ ก่อนเวลาตื่นสัก 5 นาที หรือร้องเพลงที่คุณแม่แต่งขึ้นโดยเฉพาะ เช่น ปลุกด้วยคำว่า ตื่น เป็นจังหวะโจ๊ะๆ ตื่น ตื่นตื่น ตื่น ตื่น เอ้า ตื่น ตื่น ตื่นได้แล้ว เอ้ว … ตามสไตล์ของคุณแม่ได้อย่างเต็มที่

หากลูกยังตื่นยาก หรือเห็นว่า แอบลืมตาแล้วแต่ไม่ยอมลุก คุณแม่ต้องเพิ่มกระบวนท่า ขยับแขนขยับขาลูกสักหน่อย แล้วขยับตัวเองด้วยการเต้นสักนิด งานนี้ลูกน่าจะอดหัวเราะกับวิธีนี้ของคุณแม่ไม่ได้ ยอมใจ ยอมตื่นได้ในที่สุด

02

"ใครไม่ยอมตื่น จะหม่ำให้หมดเลย ฮ่าฮ่า"

สร้างความสนุกให้ยามเช้า ด้วยการปลุกสุดเอ็นจอย คุณแม่หลายท่านเคยใช้วิธีนี้แล้วได้ผล ด้วยการเข้าไปกอดลูกให้แน่นๆ เพื่อให้ลูกรู้สึกตัวตื่นก่อน จากนั้นค่อยๆ พูดว่า ตื่นนอนได้แล้วลูก เมื่อลูกเริ่มขยับ ก็ตามด้วยคำว่า “หากยังไม่ตื่น จะหม่ำพุงแล้วนะ จะหม่ำแขนแล้วนะ จะหม่ำขาแล้วนะ จะหม่ำทั้งตัวเลย” 

ลูกอาจอ้อยอิ่งสักครู่ และเมื่อแหย่อีกนิด ลูกอาจจะหัวเราะออกมา ก็แสดงว่า ตื่นแล้ว ค่อยๆ ชวนกันลุกจากที่นอนเป็นลำดับถัดไปค่ะ 

03

"ดวงตาน้อยๆ คู่นั้น ตื่นหรือยังจ๊ะ"

คุณแม่ที่ทำงานด้านกราฟฟิกท่านหนึ่ง ได้แชร์ไอเดียปลุกลูกวัยอนุบาล ด้วยการใช้ประโยคน่ารักๆ ว่า “ดวงตาจ๋า ตื่นหรือยังจ๊ะ” แล้วจิ้มเบาๆ ที่คิ้วน้อยๆ “จมูกจ๋า ตื่นหรือยังจ๊ะ” แล้วจิ้มไปที่ปลายจมูกเบาๆ ลูกก็จะบอกว่า “ยังไม่ตื่นจ๊ะ” 

เพียงแค่นี้ ก็ลูกก็ตื่นแล้วค่ะ แต่แกล้งบอกไม่ตื่น แต่ในความแกล้งเล่นของลูก มีความน่าเอ็นดูอยู่เต็มไปหมดเลย คุณแม่ได้หัวเราะ ลูกได้หัวเราะ เป็นการปลุกที่สนุกและสดชื่นจริงๆ เลยล่ะค่ะ 

แต่จะลูกลุกขึ้นมามั๊ยนั้น คุณแม่บอกว่า ให้เวลาเขาบิดขี้เกียจสัก 5 นาที แล้วชวนกันไปอาบน้ำ ด้วยประโยคเดิม เช่น “ห้องน้ำจ๋า อยู่ไหนจ๊ะ สบู่จ๋า ฉันมาแล้วจ้ะ” เพื่อให้ลูกทำกิจวัตรยามเช้าอย่างเอ็นจอยและแม่ก็แฮปปี้ไปด้วยได้ค่ะ  

04

"ใครตื่นไว ได้ดาวเด็กดี"

ส่วนคุณแม่คนไหน สายงานการตลาด แนะนำให้ปลุกลูกด้วยแรงจูงใจ โปรโมชั่นตื่นไว ตื่นทันใจ รับไปเลย!!! เช่น ได้คะแนนและดาวเด็กดี ได้เวลาเล่นตัวต่อเพิ่ม ได้เวลาดูการ์ตูนเพิ่ม 10 นาที วิธีนี้หลายบ้านแชร์ว่าใช้ได้ดี โดยเฉพาะในวันที่คุณพ่อคุณแม่ต้องออกจากบ้านแต่เช้าเป็นพิเศษ และต้องการให้ลูกตื่นเร็วมากกว่าปกติ  

แต่หากยังงอแงอยู่ แนะนำว่า จัดโปรฯ ใหม่ วันต่อวัน เช่น ตื่นตอนนี้ ตอนเย็นได้กินไอติมหนึ่งแท่ง หรือ ได้ขนมที่ชอบมากๆ แต่นานๆ ทีคุณแม่จะให้ได้ เพื่อเรียกพลังให้เปิดเปลือกตา ลุกขึ้นมาไปอาบน้ำ แต่งตัว กินข้าวและไปให้ทันในเวลาที่กำหนดนั่นเองค่ะ 

 

05

"ใครลืมตาก่อน คนนั้นชนะ"

เด็กๆ ชื่นชอบการเล่นเกมแข่งขันแบบนี้เป็นที่สุด ใคร…ก่อน คนนั้นชนะ , ใคร…ทีหลัง คนนั้นแพ้ เมื่อต้องปลุกลูกในตอนเช้าๆ ให้ไปโรงเรียนให้ทัน ลองปลุกด้วยคำว่า ใครลืมตาก่อน คนนั้นชนะ ใครเข้าไปอาบน้ำทีหลัง คนนั้นแพ้ ใครลุกจากเตียงก่อน คนนั้นชนะ 

ใครถึงห้องอาบน้ำก่อน คนนั้นชนะ หรือ คำว่า ใครตื่นมาจุ๊บแก้มคุณแม่ก่อน คนนั้นชนะ แล้วให้คุณพ่อมีส่วนร่วมด้วยก็จะสนุกขึ้น และช่วยให้การปลุกลูกเป็นไปอย่างแฮปปี้ในทุกๆ เช้า 

คุณแม่อาจจะสลับๆ วิธีปลุกลูกให้ไม่ซ้ำ ก็จะช่วยให้ยามเช้าเป็นช่วงเวลาที่ดี ได้มีเวลาสนุกเล็กๆ ก่อนไปโรงเรียน ทั้งยังได้ใช้ช่วงเวลาในช่วงเช้า สร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ แสนดีต่อใจคนทั้งครอบครัวได้ในทุกๆ วันเลยล่ะค่ะ 

เรื่อง ศรัญญา อ่าวสมบัติกุล