ยิ้ม ยอม ร้อง และนิ่ง 4 วิธีน่ารักที่ช่วยทำให้เห็นคุณค่าในตัวเองแบบ ‘หมีพูห์’ - Jamsai Kids Store | ร้านหนังสือออนไลน์ คลังนิยายแจ่มใส

ตะกร้าสินค้า

empty-cart-img

ไม่มีสินค้าในตะกร้า

เลือกซื้อสินค้า
โปรโมชั่นส่วนลด และพรีเมี่ยมจะแสดงในหน้าตะกร้าสินค้าของฉัน

ราคาสินค้า:

0.00 บาท

ยิ้ม ยอม ร้อง และนิ่ง 4 วิธีน่ารักที่ช่วยทำให้เห็นคุณค่าในตัวเองแบบ ‘หมีพูห์’

Share:   

ยิ้ม ยอม ร้อง และนิ่ง 4 วิธีน่ารักที่ช่วยทำให้เห็นคุณค่าในตัวเองแบบ ‘หมีพูห์’

       'สิ่งที่ทำให้ฉันแตกต่างคือ สิ่งที่ทำให้ฉันเป็นฉัน' ประโยคสั้นๆ แต่กินความล้ำลึกถึงตัวตนของ 'หมีพูห์' ตุ๊กตาหมีสีเหลืองพุงกลม หน้าตาใสซื่อ จาก หนังสือเรื่อง Winnie the Pooh ที่สะท้อนให้ผู้คนทั่วโลกได้เห็นถึงคุณค่าของตัวเอง และยังสอดแทรกวิธีการดีๆ ที่น่าสนใจและนำมาใช้ได้จริง 

       เรื่องราวของหมีพูห์ มีมุมน่าคิดและน่ารักมากมาย และเราก็ได้สกัดออกมาเป็น 4 คำเหล่านี้ ยิ้ม(ให้กับตัวเอง) ยอม(รับตัวตน) ร้อง(เพลง) และนิ่ง (ปล่อยวาง) ว่าแต่รายละเอียดจะเป็นยังไงบ้าง ไปอ่านกันเลย 

1.ยิ้ม…ให้กับตัวเอง (ในกระจกทุกเช้า)

       เพราะการยิ้มจะช่วยให้ความรู้สึกแรกเริ่มของวันนั้นเบิกบาน เพื่อให้ในใจของเราบอกกับตัวเองว่า ‘ฉันมีความสุข ที่ฉันเป็น….’ ‘ฉันชอบตัวของฉันจังเลย ชอบตรงที่…’ 

       ใครเป็นแฟนหมีพูห์ จะรู้ว่าในบ้านของหมีพูห์จะมีกระจกทรงสูงตั้งอยู่กลางบ้าน หมีพูห์มักจะส่องกระจกบานนี้อยู่บ่อยๆ มันมักจะมองและลูบพุงกลมๆ ของตัวเอง แล้วฮัมเพลงที่เกี่ยวกับอะไรสักอย่างที่เรียกว่า น้ำผึ้ง และความหิว (หมีพูห์มักจะพูดจาวนๆ ซ้ำๆ แบบนี้ และนี่แหละคือ หมีพูห์ตัวจริง) ที่สำคัญ มันมักยิ้มให้กับตัวเองอยู่เสมอ 

       การยิ้มของหมีพูห์ นอกจากจะทำให้มันดูเป็นหมีที่ใจดีแล้ว หมีพูห์ยังเป็นผู้ฟังที่ดี และเป็นหมีพูห์ที่เข้าอกเข้าใจสัตว์ตัวอื่นๆ อีกด้วย ทำให้สัตว์ทุกตัวในป่าร้อยเอเคอร์ยอมรับในข้อดีของหมีพูห์

2.ยอมรับและชื่นชมตัวเอง

       นี่คือการยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น ทั้งในด้านที่ดี และด้านที่ดูไม่น่ารัก หรือไม่น่าดู เราต้องไม่ลืมให้กำลังใจตัวเองอยู่เสมอและผลักดันพลังบวกของตัวเองในทุกๆ วัน 

หมีพูห์เองก็เช่นกัน มันทำให้เห็นว่า วิธีง่ายๆ ที่ทำให้เรายอมรับตัวเองได้ก็คือ ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น หมีพูห์ไม่เคยปฏิเสธว่าตัวเองชอบกิน พุงก็กลมใหญ่ เป็นหมีสมองเล็ก แต่ก็มีประโยชน์กับเพื่อนเสมอ (หมีพูห์ต้องใช้เวลาคิด คิดและคิด ก่อนที่จะพูดหรือทำอะไรบางอย่าง บางทีก็นานจนลืมว่าจะทำอะไร) เมื่อเรายอมรับในตัวเอง คนอื่นก็จะมองเห็นความมั่นใจนั้น และเขาจะยอมรับเราได้ในที่สุด เมื่อไหร่ที่คนรอบตัวให้ความสำคัญและมั่นใจในตัวเรา เราก็จะยิ่งมั่นใจและเห็นคุณค่าของตัวเองมากขึ้น เช่นเดียวกับประโยคที่คริสโตเฟอร์ โรบิน บอกกับหมีพูห์ ตอนนั่งอยู่บนต้นไม้ด้วยกัน (แล้วหมีพูห์ดันสลึมสลือ) ว่า…“You are braver than you believe, stronger than you seem, and smarter than you think.” เธอกล้าหาญมากกว่าที่เธอเชื่อ แข็งแกร่งกว่าที่เธอเห็น และฉลาดกว่าที่ตัวเธอคิด”

3. ร้องเพลงให้กับทุกเหตุการณ์

        วิธีที่สนุกที่สุดสไตล์หมีพูห์คือ ‘แต่งกวี’ หรือร้องเพลงให้กับทุกสถานการณ์ที่มันกำลังเผชิญ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะดูยากหรือเป็นวันที่ไม่มีอะไรเลยก็ตาม การได้ฮัมเพลงออกมา ก็ช่วยทำให้ปลดปล่อยตัวตนของตัวเองออกมาได้เช่นกัน

หมีพูห์ชอบออกไปหาเพื่อนๆ เช่นเดียวกับเช้าวันหนึ่งที่กำลังจะออกไปหาเพื่อน แต่ก็อดคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไม่ได้ มันนั่งลงที่ก้อนหินใหญ่ในลำธารแล้วแต่งกวี ร้องเป็นเพลงว่า … “ยามเช้าแสนสุข คงสนุกถ้าไปเยี่ยมรู” (ตุ๊กตาลูกจิงโจ้ตัวเล็ก) หรือ “ยังคงเป็นเพียงพูห์ที่ยังเฮิกเหิม เพราะไม่สำคัญที่ฉันไม่อ้วนกว่าเดิม(และฉันก็ไม่อ้วนเพิ่ม) ไม่ว่าจะยังไง”… (หนังสือเรื่อง บ้านมุมพูห์)

แทบจะทุกเพลง ดูเหมือนพูห์จะเข้าใจและรู้จักตัวเองเป็นอย่างดี และในหลายๆ บทเพลงก็ดูเข้าใจโลก และเข้าใจผู้อื่นด้วย

4.นิ่ง ไม่ต้อง (พยายาม) ทำหรือเปลี่ยนอะไรเลย (ก็ได้นะ)

เพราะพูห์ก็คือพูห์ รวมทั้ง พิกเลต ทิกเกอร์ อียอร์ คริสโตเฟอร์ โรบิน รวมถึงสัตว์ทุกตัวในป่าร้อยเอเคอร์ก็เช่นกัน แม้ว่าบางครั้งที่สัตว์บางตัวอยากจะเป็นสัตว์อีกตัว แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้อยู่ดี

พูห์ทำให้เห็นว่า ทุกอย่างล้วนมีคุณค่า แม้กระทั่งต้นไม้ ใบหญ้า สายลม หรือลูกโป่ง การโดดเด้งดึ๋งอย่างทิกเกอร์ อารมณ์หม่นหมองของอียอร์ ความฉลาดของอาว (นกฮูก) ความวุ่นวายของแรบบิท (กระต่าย) อาการหัวเราะคิกคักเมื่อนึกถึงน้ำผึ้งของพูห์ และเมื่อทุกฝ่ายเข้าใจกันและกันแล้ว ก็ไม่ต้องพยายามทำอะไร หรือเปลี่ยนใครทั้งนั้น รวมทั้งตัวเราด้วย (ถ้านั่นเป็นธรรมชาติของเราและไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนนะ)

        บางเวลาเราอาจจะค่อยๆ ปล่อยให้ตัวเองได้หยุดนิ่ง อย่าง ตอนที่พูห์ พิกเลต และคริสโตเฟอร์ โรบิน ‘ทั้งสามได้ใช้เวลาดูแม่น้ำโดยไม่พูดอะไร แม่น้ำก็ไม่พูดอะไรเช่นกัน เพราะมันรู้สึกวิเวกและสงบสุขเหลือเกิน ในยามบ่ายของวันฤดูร้อนนี้’ (หนังสือเรื่องบ้านมุมพูห์) 

       คุณพ่อคุณแม่อาจจะสอนให้เด็กๆ ทำวิธีเหล่านี้ได้เหมือนกัน เช่น เริ่มต้นด้วยการตื่นเช้าแล้วยิ้มให้กับตัวเองหนึ่งที บ่ายๆ ก็ชวนน้องๆ ออกไปเล่น สัมผัสกับธรรมชาติและสำรวจนิสัยใจคอของตัวเองสักหน่อย ตกเย็นก็ชวนน้องๆ ทบทวนตัวเองอีกนิดว่า วันนี้ฉันเก่งจังที่ทำเรื่องนั้นเรื่องนี้ได้... พอถึงเวลาก่อนนอนก็ปล่อยตัวเองให้สบายๆ ฟังนิทานเพลินๆ แล้วก็หลับอย่างมีความสุขด้วยความคิดว่า - "ฉันรักตัวเองจังเลย" 

       และเมื่ออ่านนิทานคลาสสิคแบบหมีพูห์ไปแล้ว อยากจะหยิบนิทานสนุกๆ ของแจ่มใสคิดส์มาอ่านประกอบด้วย ก็ยิ่งดี เพราะมีหลายเรื่องเลย ที่แจ่มใสคิดส์คัดสรรมาให้น้องๆ ได้เรียนรู้ที่จะรักและชื่นชมในสิ่งที่ตัวเองเป็น ถ้าสนใจลองแวะเข้าไปดูในเว็บไซต์แจ่มใสคิดส์กันได้เลย 

เรื่อง ศรัญญา อ่าวสมบัติกุล